ตำนานที่ไม่เคยเป็นตำนาน
slost's Most Thanked Post | ||
Post Subject | Post Date/Time | Numbers of Thanks |
Zombie Can't Kill [นิยายซอมบี้] | 03-01-2014, 12:26 PM | 13 |
Thread Subject | Forum Name | |
Zombie Can't Kill [นิยายซอมบี้] |
Imperial School of Art, Literature and Design
Art Square |
|
Post Message | ||
เอาของมาปล่อย อิอิ /trollface Zombie Can't Kill By slost เป็นนิยายเรื่องแรกๆที่ผมแต่ง เนื้อเรื่องเลยค่อนข้างวางไม่ถูกที่ การบรรยายดูขาดอะไรไปบางอย่าง ...แต่ก็ได้รับการตรวจทานอย่างมาก หลายครั้ง ทำให้ออกมาดูดีพอสมควร ด้านเนื้อหาเกี่ยวกับโลกถูกซอมบี้คุกคาม ตัวเอกของเราก็ได้ตั้งฐานทัพอยู่ที่โรงภาพยนต์ในห้าง ได้รับแรงบัลดาลใจมาจาก The Walking Dead กับ หนังเรื่อง Zombieland https://encrypted-tbn2.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQNmF9z0Wh75xZ_b22Zxyp5T6So40oY1YUPZKVovMJpcpUQUgZkOw http://t3.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcQvEmTG4LaerK39Se-tB---UzYJtKGWsP8RBWgQME6mEbiY3p1q โดย Zombie Can't Kill นั้นจะเป็นแนวตลกร้าย เอาฮาอย่างเดียว แอบดราม่านิดหน่อย ฉากต่อสู้ไม่เน้น เพราะบรรยายไม่ค่อยเป็น ตอนแรกคิดจะทำเป็นซีรีย์ ทำออกมาหลายอย่าง ทั้งนิยาย ทั้งเกม แต่น่าเสียดายที่โปรเจ็คต์นี้ถูกทอดทิ้งหลังจากแต่งไปได้แค่ตอนเดียว ....คงมีซักวันที่ผมจะทุบไหให้แตกแล้วกลับมาทำใหม่อีกครั้ง... ตอนนี้เชิญรับชมก่อนเลยครับ (ก็อปโค้ดมาจากอีกเว็บ อาจมีบางโค้ดที่ใช้ไม่ได้แล้วมันติดมา ขออภัยด้วยครับถ้าหากมันไปกวนใจท่าน เดี๋ยวว่างๆผมจะแก้อีกที) Zombie Can't KillBy slost Chapter 1 : Zombie เวลาที่เหล่าซอมบี้บุกเมืองมันก็ดีเหมือนกันนะอาหารเอย การ์ตูนเอย เกมเอย ทุกอย่างมันฟรีไปหมด เมื่อประมาณเดือนที่แล้วได้เกิดโรคระบาดอันรุนแรง ทำให้มีผู้คนติดเชื้อทำให้พวกเขากลายเป็น… เอ่อ พวกซอมบี้นั่นแหละ ถ้าหากจะกล่าวถึงต้นตอของโรคระบาด ผมขอเดาว่าเป็นเพราะบริษัทผลิตยาแห่งหนึ่งผสมยาผิดพลาดตามหลักหนังซอมบี้นั่นแหละมั้ง หรือมันจะเป็นเพราะอะไรก็ช่างมันเถอะ อย่างน้อยมันก็ทำให้ชีวิตของผมดีขึ้น ใช่ดีขึ้นมากเชียวล่ะ ก่อนที่ซอมบี้จะบุกเมืองชีวิตเงินเดือนอย่างผมต้องกินบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไปวันๆ รอคอยที่เงินเดือนจะออก เพื่อจะได้นำเงินไปซื้อกับข้าวที่มันดีกว่าแต่หลังจากที่เหล่ามนุษย์ที่มีเนื้อติดอยู่ซอกฟันเข้ามาในเมือง ก็ทำให้ผมไม่ต้องอดอยากอีกต่อไป เป็นเพราะคนขายอาหารก็เป็นพวกนั้นไปหมดแล้วน่ะสิคงไม่ติดคุกหรอกมั้ง ขโมยอาหารมากินในช่วงซอมบี้บุกเนี่ย อ้อ ลืมบอกไป ผมชื่อว่า รอน นะ รอนริคเกอร์ น่ะ คุณคงไม่รู้จักหรอก เพราะผมไม่ค่อยเข้ามา ในเมืองน่ะสิแต่จะว่าไปมีครั้งหนึ่งที่ผมเข้ามาในเมืองนะ ตอนที่หายนะกำลังมาเยือนเอ่อหมายถึงพวกซอมบี้มาน่ะ ตอนนั้นอะไรไม่รู้ที่ดลใจให้ผมไปดูหนังที่ห้างสรรพสินค้าที่อยู่แถวบ้าน แต่ก็ขอบอกเลยล่ะว่าโชคดีมากๆตอนที่ผมกำลังดูอยู่นั้น ในตอนนั้นหนังฉายไปได้ซักประมาณ 5 นาที ผมได้ยินเสียงอะไรไม่รู้ดัง ตูม! เหมือนระเบิดลงแล้วผมก็สลบไป เมื่อตื่นขึ้นมาอีกครั้งก็พบว่าในห้าง เละไม่เป็นชิ้นดีเชียวล่ะ เมื่อผมออกไปจากโรงหนังก็พบว่าในห้างมีแต่พวกศพเดินได้เต็มไปหมด[/color] ผมตกใจมากแล้วรีบกลับมาในโรงหนัง จะว่าไปแล้วพวกที่ดูหนังพร้อมกับผมก็รอดหมดนะแต่พวกนั้นส่วนหนึ่ง[/color] ไม่ยอมเชื่อฟังผมเลย แล้วเดินเข้าไปในห้างเฉยซึ่งพวกเขาจะกลายเป็นแบบพวกนั้นหรือไม่… [/color] ...ก็ไม่รู้ล่ะอย่างน้อยก็มีผมคนนึงที่รอดแล้ว[/color] [/color]“เฮ้ รอนนายจะอัดเสียงใส่โทรศัพท์อีกนานมั้ย ไม่มีใครอยู่รอดให้ฟังนายหรอกน่า”เสียงของชายผู้หนึ่งได้ตะโกนบอกกับรอนด้วยน้ำเสียงที่เบื่อหน่าย “โธ่เบลจะให้ชั้นทำอะไรไม่ได้เลยเหรอเนี่ย” “ใช่ สิ่งที่นายควรทำในขณะนี้คือไปหาเสบียงไม่ก็ไปหาอาวุธเจ๋งๆ แจ่มๆ ไปไล่ฆ่าพวกมันซะ” เบลได้ตอบกลับรอน แล้วกำมือเหมือนจับดาบจากนั้นก็ฟันไปกลางอากาศเหมือนกำลังฆ่าพวกซอมบี้ เกือบลืมคนที่อยู่รอดไม่ได้มีเพียงแค่ผม กับ เบล ไอ้บ้าพลัง ที่วันๆไม่ทำอะไรคอยแต่สั่งคนอื่นอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมี กอร์น จอมลุย ชอบเสี่ยงอะไรอันตรายเพื่ออะไรเล็กๆน้อยๆ อย่างเช่น ครั้งหนึ่งกอร์นเคยออกจากโรงหนังแล้วไปในห้างเพื่อไปเอาลูกอมรสสตอร์เบอร์รีของโปรด ของเขามากินซึ่งก็รอดกลับมาด้วย แถมยังแบ่งให้พวกเราอีกต่างหาก คนต่อไป โทมัส จอมวางแผน ขอยอมรับเลยว่าเจ้านี่เก่ง และฉลาดมาก เขานี่แหละที่เป็นคนบอกเราให้ตั้งฐานทัพอยู่ที่โรงหนัง แถมยังให้เหตุผลว่าในห้างเป็นแหล่งอาหารชั้นเยี่ยมแต่ที่ให้อยู่ในโรงหนังก็เพราะในห้างก็เป็น แหล่งรวมซอมบี้ชั้นเยี่ยมเหมือนกัน ถ้าตั้งฐานทัพอยู่ในโรงหนังจะปลอดภัยกว่าถ้าหากไม่มีเขา เราอาจจะกลายเป็นพวกซอมบี้แล้วก็ได้มั้งเนี่ย คนสุดท้าย ลาสต์ คุณลุงผู้มากฝีมือเขาคือ คนที่แก่ที่สุดในพวกเรา ที่จริงเขาเป็นคนที่ทำงานอยู่ที่ห้องฉายในโรงหนังน่ะลาสต์จะเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน ชอบเล่นการพนัน แต่ถึงเขาจะแก่แต่ก็มีพละกำลังเยอะที่สุดในกลุ่ม “เฮ้พวกนายหยุดเถียงกันได้แล้ว เมื่อกี๊นี้ชั้นไปเจอร้านขายอุปกรณ์ทำครัวด้วยแหละ” เสียงของผู้มาใหม่ดังขึ้นตัดบทสนทนา “แล้วไง” รอน กับ เบล ตอบพร้อมกัน กอร์น หรือผู้ที่พึ่งมายิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะพูด “ก็หมายความว่า อาวุธ พร้อมแล้วน่ะสิ” “เจ๋งเป้งเลยได้เวลาสนุกแล้วสิ” เบลกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ แล้วต่อยรัวไปกลางอากาศ ลาสต์กระโดดลงจากห้องฉายหนัง แล้วถามขึ้นด้วยสีหน้าอย่างมีความหวัง “แล้วนายเจอคาสิโนบ้างมั้ย ?” “ไม่” ลาสต์ทำหน้าผิดหวัง ก่อนจะเตะโต๊ะในโรงหนังพังไปหนึ่งตัว “เบาๆหน่อยสิลุง เออนี่รอน นายรู้มั้ยว่าโทมัสหายไปไหน” กอร์นเอ่ยกับลาสต์แล้วหันหน้าไปถามรอน “เห็นเจ้านั่นบอกว่าจะไปห้องน้ำน่ะ” รอนขมวดคิ้ว ก่อนจะชี้ไปที่ห้องน้ำหลังโรงหนัง “เรียกชั้นมีอะไรเหรอกอร์น” โทมัสเข้ามาในโรงหนัง แล้วนำลูกอมรสสตอร์เบอร์รีไปให้กอร์น “ชั้นเจอจากศพของซอมบี้เด็กตัวนึงน่ะ” “ขอบใจนะ คือว่าชั้นเจอร้านขายอุปกรณ์ทำครัวน่ะ เลยคิดว่าจะเอาพวกมีดมาเป็นอาวุธซะหน่อย” “จะให้ชั้นวางแผนการบุกว่างั้น ?” “ใช่ นายคิดว่าไงโทมัส” “ก็ดีนะลำพังแค่พละกำลังจากร่างกายก็คงไม่สามารถเอาตัวรอดจากฝูงซอมบี้ได้ ถ้าได้อาวุธมาใช้ก็คงจะดีไม่น้อย” กอร์นยิ้มก่อนจะพูด “เยี่ยม” “เอาล่ะชั้นจะให้นายไปกับรอนนะ ส่วนเบล ลาสต์ และชั้นจะอยู่เฝ้าฐานทีนี่..” “เมื่อไหร่ชั้นจะได้ออกโรงมั่งเนี่ย” เบลพูดขัด “ขืนให้นายไปแผนก็เละน่ะสิ กอร์น รอนให้พวกนายไปเงียบๆ ถ้าถึงแล้วหยิบของที่พอจะใช้มาเป็น อาวุธมาคนละ 2 ชิ้น จากนั้นรีบเผ่นมาที่นี่เลย เข้าใจมั้ย” “ครับท่านนายพล” รอน ทำท่าล้อเลียนเหมือนทหารกำลังเคารพเจ้านาย โทมัสส่งรอนกับกอร์นที่ประตู ก่อนที่พวกเขาจะจากไป พวกเขาเดินไปได้สักพัก ก่อนที่กอร์นจะหันหน้าไปถามรอนด้วยน้ำเสียงเบาๆ เพราะกลัวพวกซอมบี้จะได้ยิน “เฮ้รอน ทำไมเมื่อกี๊นายไม่ค่อยมีบทพูดเลย” “พวกนายแย่งพูดน่ะ แต่ชั้นว่าลาสต์น่าสงสารสุดนะ ได้พูดแค่ไม่กี่คำเอง” “นั่นน่ะสินะ ฮ่าๆ” ทั้งคู่ได้หัวเราะออกมาก่อนจะเริ่มออกเดินทางต่อ พวกเขาเดินไปด้วยความระมัดระวัง ก่อนจะหยุดอยู่ตรงหน้าซอมบี้ที่นอนอยู่ตัวหนึ่ง “มันน่าคลื่นไส้มากเลยนะรอน” กอร์นทำหน้าสะอิดสะเอียน “ใช่มันน่าเวทนามาก ...กอร์นนายคิดว่ามันตายรึยัง” เมื่อพูดจบ รอนก็ใช้เท้าเขี่ยๆไปที่หัวของซอมบี้ “เฮ้ย !!” ซอมบี้ร่างท้วมที่นอนอยู่นั้นมันยังไม่ตายแถมมันพยายามโยกหัวจะเข้าไปกัดขาของรอนอีก ปัง ! กระสุนจากที่ไหนไม่รู้ได้เข้ามาเจาะทะลุหัวของซอมบี้ตัวนั้น ทำให้รอนรอดตายจากมัน ชายสวมหมวกคาวบอยสีน้ำตาลเดินเข้ามาพวกรอนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหล่อๆกับพวกเขา “ทีหลังนายก็หัดระวังซะมั่งนะถ้ายังไม่แน่ใจว่ามันตายหรือยังก็อย่าไปเสี่ยงอะไรโง่ๆอย่างนั้นสิ” “ขอบคุณนะครับว่าแต่คุณ…” รอนพูดกับชายคนนั้นก่อนจะชะงักซักพัก “ชั้นชื่อ แฮนด์ซัมน่ะ” เขานำปืนเหน็บไว้ที่เข็มขัด ก่อนจะเก๊กหล่อต่อไป “ครับ คุณแฮนด์ซัม ผมรอน และนี่ กอร์น ยินดีที่… เฮ้ย” รอนพูดยังไม่ทันจบก็ต้องตกใจอีกรอบ เพราะซอมบี้ตัวเมื่อกี๊มันยังไม่ตายแต่มันกัดเข้าไปที่ขาของแฮนด์ซัมเต็มๆ! “ชิบหายแล้ว.. ....อ๊ากก ..กก” แฮนด์ซัมกุมขาแล้วสบถก่อนจะร้องออกมาด้วยความทรมาน “หายก็หาให้เจอสิ กอร์นนายไปหยีบปืนของไอ้ขี้เก๊กนี่มาซะ” รอนสั่งกอร์นแล้วเตะไปที่หัวของแฮนด์ซัมสุดแรง “ได้ โอเค” กอร์นรีบเข้าไปหยิบปืนของแฮนด์ซัม แล้วพวกเขารีบวิ่งออกมาจากบริเวณนั้น ปัง! ปัง! “ส้มน้ำหน้าไอ้ขี้เก๊กเอ๋ย” รอนตบมือกับกอร์นด้วยความดีใจที่ได้อาวุธปืนมาใช้ ความดีใจของพวกเขากำลังหายไป เมื่อพบกับสิ่งที่เผชิญอยู่ตรงหน้า… “โอ๊ะโอเพื่อนเอ๋ย ฝูงซอมบี้พวกนี้มันแห่กันมาจากไหนเนี่ย” ข้างหน้าของพวกเขาคือฝูงผีดิบจำนวนมาก ที่กำลังจ้องมองพวกเขาอย่างกระหายเลือด กอร์นกำปืนแน่นพร้อมยิงพวกมันได้ทุกเมื่อ และระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา “ชั้นว่าเสียงจากปืนแน่ๆเลยที่ทำให้พวกมันแห่มา” รอนชี้ไปที่บริเวณศพของแฮนด์ซัม “ถ้าหากชั้นใช้ปืนอีกครั้งพวกมันจะไม่ยิ่งแห่กันมาเหรอ” กอร์นแสดงสีหน้าเครียด แล้วลดมือที่ถือปืนลง “มีทางเดียว คือหนี !” เมื่อพูดจบรอน กับ กอร์น ก็รีบวิ่งไปยังบริเวณโรงหนังทันที รอนเดินผ่านร่างของแฮนด์ซัมแล้วหยิบหมวกคาวบอยของเขามาใส่ “หมวกนี่ชั้นว่าเท่ดีนะขอหยิบหน่อยละกัน” พวกเขาวิ่งด้วยความเร็วสุดชีวิตข้าวของในห้างซึ่งปกติก็เละอยู่แล้ว แต่เมื่อพวกเขาเข้ามาวิ่งหนีพวกซอมบี้ก็ยิ่งทำให้เละเข้าไปใหญ่ ในขณะที่กำลังวิ่งกอร์นก็หันหน้าไปหารอนพร้อมกับพูดว่า “แหม่ พอมาเจอแบบนี้ทำให้คิดถึงเกมในโทรศัพท์เลยเนอะ” “เทมเพิลรัน หรือซัฟเวย์เซิร์ฟล่ะ” กอร์นกระโดดข้ามชั้นวางขนมก่อนจะหยุดอยู่ข้างหน้าชั้นวางลูกอม “เอ๊ะ นั่นมัน ลูกอมรสสตอร์เบอร์รีรุ่นพิเศษลิ้นเปลี่ยนสีได้นี่นา !” รอนชะงักไปสักครู่เมื่อเห็นกอร์นหยุดวิ่ง ก่อนจะพบว่ากอร์นกำลังสนใจขนมอยู่ “กอร์นนี่ไม่ใช่เวลามาห่วงกิน ดูข้างหลังนายสิพวกซอมบี้มันเต็มไปหมด นายเห็นมั้ย” เขาตะโกนใส่กอร์นแล้วชี้ไปที่ข้างหลังพวกเขา กอร์นทำหน้าเสียดายก่อนจะหยิบมาชิ้นนึงแล้ววิ่งต่อ “รุ่นนี้ยิ่งเป็นรุ่นหายากอยู่ด้วย ฮือ” ทั่งคู่วิ่งจนเกือบจะมาถึงฐานทัพ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องหยุดวิ่งเมื่อพบว่าซอมบี้ตัวหนึ่งขวางทางเขาอยู่ “จะเอาไงดี รอน” กอร์นหันไปมองข้างหลัง ก่อนจะหันหน้ามาปรึกษารอน “ชิปืนก็ใช้ไม่ได้ ...แต่เอ๊ะ ซอมบี้ตัวนั้นมันเป็นเด็กนี่หว่า ชั้นว่าถ้านายเอาลูกอมนั่นมาเป็นเหยื่อล่อมันคงจะหลีกทางให้เรา …มั้ง” “เอาไงก็เอากันวะ”กอร์นทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ เพราะเสียใจที่ต้องเสียลูกอมสุดที่รักไป แต่ก็ต้องทำเพราะไม่งั้นซอมบี้ที่อยู่ข้างหลัง อาจจะมากินตับเขาได้ เขาปอกเปลือกลูกอม ก่อนจะโยนไปด้านซ้ายของซอมบี้ตัวนั้น ปึก… มันหันมามองที่ลูกอมสักพัก “…” ก่อนจะเลิกสนใจ แล้วกลับมาเดินวนต่อ “…” …ไม่มีเสียงตอบรับจากซอมบี้ที่ท่านให้ลูกอมเป็นเหยื่อล่อ… “ห่าเอ๊ย”กอร์นสบถ แล้ววิ่งเข้าไปต่อยหน้าซอมบี้ตัวนั้นจากนั้นก็กระทืบเข้าไปที่หัวของมันไม่หยุด ตุบตับ ตุบ ตุบ ตับ “ห้าทีให้กับลูกอมที่ชั้นต้องเสียไป” เขาตะโกนใส่หน้าของมัน แล้วหยิบรถเข็นข้างๆมาทุบใส่ รอนหันไปมองพวกที่อยู่ด้านหลังก่อนจะหันมาพูดกับกอร์น “กอร์นชั้นว่าเรารีบไปดีกว่านะ” เขาหยุดทุบมันก่อนจะหันหน้ามามองเขา “นายอีกคนแผนโง่ๆของนายทำให้ชั้นต้องสูญเสียลูกอมสุดที่รักไป” เมื่อพูดจบเขาก็นำปืนมายิงพวกที่อยู่ข้างหลังด้วยความบ้าคลั่ง ปังปัง ปัง ปัง เมื่อเขายิง พวกมันก็ยิ่งแห่มาเรื่อยๆ แต่กอร์นก็ยังคงยิงพวกมันต่อไป “ไอ้ซอมบี้บ้าพวกแกสมควรตาย แกมาแย่งลูกอมของชั้นไป แก.. อ๊ากกก” เขายิงพวกมันไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระสุนหมดแต่เขาก็ยังนำสิ่งของที่อยู่ใกล้มาระบายโทสะได้หมด รอน ได้แต่ยืนดูที่จริงตอนนี้เขาอยากจะไปขอโทษกอร์น แต่ว่าถ้าเขาเข้าไปตอนนี้ เขากลัวว่าจะได้รับลูกหลงจึงได้ยืนดูอยู่ไกลๆ อย่างระมัดระวัง [/color] เวลาได้ผ่านไปเรื่อยๆ เรื่อยๆ เรื่อยๆ จนกระทั่งพวกซอมบี้ตายหมดแล้วในห้างตอนนี้เต็มไปด้วยเลือดของพวกมัน กลิ่นคาวเลือดล่องลอยอยู่เต็มอากาศกอร์นคุกเข่าอยู่ข้างหน้าลูกอมรสสตอร์เบอร์รีรุ่นลิ้นเปลี่ยนสีอย่างนิ่งๆ… “กอร์นชั้นขอโทษนะชั้นไม่ได้ตั้งใจจริงๆ…” รอนเข้ามานั่งข้างๆกอร์น ก่อนจะตบที่ไหล่ของกอร์นเบาๆ กอร์นหันหน้าไปหารอนด้วยสีหน้าเย็นชาเขาลุกขึ้นยืนแล้วดึงร่างของรอนแล้วผลักไปข้างหน้าก่อนจะชี้ไปที่ลูกอมเม็ดนั้น “นายขอโทษแล้วคิดว่าลูกอมเม็ดนี้มันจะยังกินได้งั้นเหรอดูสิมันเลอะไปหมดแล้ว ใครจะยังกินได้อีกล่ะ!” “เอาไว้คราวหน้าชั้นจะพานายไปกินลูกอมที่ร้านขายขนมในห้างนี้ละกัน พวกซอมบี้ก็คงโดนนายฆ่าตายจนเกือบหมดแล้วมั้ง” ทันที่รอนพูดจบกอร์นก็เข้ามาดึงเสื้อของเขาก่อนจะรีบพูดว่า “เฮ้ย จริงเดะร้านขายขนมชั้นยังไม่เคยไปเลยนี่หว่า สัญญานะว่าจะพาไป” รอนยิ้มแล้วนำมือของกอร์นออกจากไหล่ของเขา “จริงสิสัญญาอย่างลูกผู้ชายเลยล่ะ” รอนกับกอร์นต่อยมือกันเหมือนผู้ชายญี่ปุ่นทำสัญญากัน “เย้ลูกอมกากๆแบบนี้ชั้นไม่กินก็ได้ เย้”กอร์นกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ แล้วเหยียบลูกอมรุ่นลิ้นเปลี่ยนสีเม็ดนั้นจนเละรอนยิ้มกับการกระทำของกอร์นที่เหมือนเด็ก เมื่อกอร์นกระโดดโลดเต้นเสร็จแล้ว จากนั้นพวกเขาก็พากันกลับไปที่ฐานทัพ… End of Chapter 1 To be continue Zombie Can't Kill (http://gameworldth.com/forum-228-1.html) ก็จบไปแล้วนะ.... อย่างว่าแหละ การบรรยายดูแข็งๆหน่อย ก็เป็นเรื่องแรกนี่นะ |
slost's Received and Given Thanks | ||
Thanks Received | Thanks Given | |
Last week | 0 | 0 |
Last month | 0 | 0 |
Last 3 months | 0 | 2 |
Last 6 months | 0 | 2 |
Last 12 months | 0 | 2 |
All Time | 220 | 990 |
Most thanked by | ||
jin | 19 | 9% |
[IRPG] Kuntana | 17 | 8% |
Ivan_GilDong | 16 | 7% |
dreamknight | 16 | 7% |
นิราจ | 12 | 5% |
Most thanked | ||
jin | 67 | 7% |
Nazuth | 53 | 5% |
LuZi | 45 | 5% |
Mysticphoenix | 43 | 4% |
XthemeCore | 42 | 4% |