ปอเองก็เป็นนักสร้างเกมหน้าใหม่ที่ยังน้อยประสบการณ์ จริงๆก็ไม่กล้าหรอกที่จะมาเขียนทริค เทคนิคดีๆแบ่งเพื่อนๆ เพราะปอเองบางทีก็ยังทำอะไรได้ไม่ดีพอ เพราะงั้นเพื่อนๆก็มีสิทธิ์คิดต่างออกไปจากที่ปอคิดได้(เหมือนที่ปอคิดต่างจากเพื่อนๆได้นะจ๊ะ) แต่ที่ปอมาเขียนเนี่ยก็เพื่อมานำร่องให้คนที่มีฝีมือการเขียนเกมในด้านนี้ได้มาทำอาจจะเป็นบทความที่ดีกว่าของปอก็ได้ใครจะไปรู้

บทที่1 พื้นฐานพาโรดี้

เกมแนวพาโรดี้ มีหลายระดับหลายเกรด แบ่งกันยังไงไม่รู้ละ แต่ปอจะแบ่งออกเป็นแค่2แบบคือ แบบล้อเลียนซอฟต์ๆ กับแบบส่อเสียด(เสียดสี)
แบบล้อเลียนซอฟต์ๆก็แค่จิกๆกัดๆ อาจจะเป็นแบบเกมซอฟต์ๆอย่างเกมที่สร้างขึ้นเพื่อล้อเพื่อนขำขำแนบเป็นของที่ระลึกในวันปัจฉิม
กับอีกแบบคือล้อเลียนแบบส่อเสียด แบบนี้เอาแรงๆให้มีน้ำตาไปเลยยิ่งดี แต่ทั้งนี้ต้องระวังในเรื่องของกฏหมาย (ให้อ่านกฏหมายหมิ่นประมาทให้ละเอียด)

จะทำเกมพาโรดี้ (จริงๆก็ทุกๆแนว) อย่าไปคาดหวังว่าทุกคนจะต้องชอบเกมของเราแล้วไม่ได้มาชอบเราทุกคนมานั่งดราม่าด่ากันเป็นคลิปในยูทูปว่า2ดิสไลค์มันของใคร ถ้าเรียนการจัดสัมนา การที่เราได้ผลประเมิน80เปอร์ฌซ็นนี่ถือว่าใช้ได้แล้ว ไม่ต้องมานั่งดราม่าว่าโลกทั้งใบมีคนไม่ชอบเรา เป็นไปไม่ได้ที่โลกทั้งใบจะรักเรา คุณก็ลองดูสาสนาที่คุณไม่ได้นับถือสิ ลองค้นประวัติไม่ดีของศาสนาอื่นๆดู เชื่อว่าโลกทั้งใบก็ยังไม่รักศาสดาทั้งหมดเลย ขนาดพระศาสดาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แล้วนับอะไรกับมนุษย์ตัวเล็กๆแบบเรา? จะเอา100เปอร์เซ็นหรอ สร้างเองเล่นเองคนเดียวอะได้แน่100เปอร์เซ็น
อ้อ อยากได้100เปอร์เซ็น ต้องไปถามพวกกระทรวงเซ็นเซอร์แล้วหล่ะ ใครมีพ่อแม่พี่น้องทำงานในกระทรวงนั้นก็ลองไปถามดูละกันนะว่าควรจะทำยังไงให้ไม่มีการกระทบกระทั่งกัน แล้วก็อย่าลืมถามวิธีเดินเป็นมนุษย์100เปอร์เซ็นจากท่านมาแบ่งปันเพื่อนๆด้วยนะ คริคริ!!

ส่วนประกอบในเกมพาโรดี้ก็เหมือนเกมอื่นๆทั่วไป
คือต้องมีเนื้อเรื่อง แนวเกม ตัวละคร 9ล9
พวกเกล็ดความรู้ทั่วไป(ที่มีความจำเป็นต่อการสร้างเกม) เหล่านี้ ก็หาอ่านได้ในเว็บ Irpgนี่ไง
เพราะงั้นปอไม่ขอเขียนเรื่องพวกนี้ซ้ำนะ (เพราะปอไม่ได้เป็นคนคิดเอง) อยากอ่านเชิญ http://irpg.in.th/forum-14.html

เกมพาโรดี้ไม่มีสูตรสำเร็จ แต่มีสิ่งที่ควรจะคำนึงดังต่อไปนี้

สิ่งที่ผู้เล่นควรได้รับ
ผู้สร้างจำเป็นต้องใส่แง่คิดดีๆที่ผู้เล่นจะได้รับนอกเหนือจากความสนุกสนาน อันนี้ปอค่อนข้างเน้น เพราะว่ามันจะได้ดูไม่ไร้สาระ โดยปกติแล้วเกมแนวล้อเลียนมักจะดูเป็นแกมไร้สาระ และดูเป็นเกมขยะไม่น่าโหลด ยิ่งเป็นเกมทำมือแบบเราๆด้วยแล้วยิ่งไม่อยากเสียเวลา เสียหน่วยความจำอันมีค่าในคอมพิวเตอร์โหลดมาเล่นอย่างแน่นอน ดังนั้นผู้สร้างควรจะใส่อะไรที่ดีๆลงไปให้ผู้เล่นบ้าง เพราะคุณภาพของเกมมันขึ้นอยู่กับสิ่งนี้ ต่อให้ปากร้ายแค่ใหน ในเกมจะแขวะจะเสียดอะไรแค่ใหน อย่าลืมสิ่งดีๆและความรู้สึกดีๆก็ต้องมีด้วย

วัตถุดิบ
วัตถุดิบในการสร้างเกมพาโรดี้ (เกมแนวล้อเลียน) คือเหตุการณ์จริง ดังนั้นเนื้อเรื่องถ้าลอกมาจากไดอารี่ของตัวเองแล้วจะเขียนเกมนี้ได้คล่องเลย เพราะแค่แต่งเพิ่มเติมอะไรลงไปนิดหน่อยก็กินได้แล้วเกมนี้ แต่ระวังอาหารเป็นพิษ เพราะวัตถุดิบเน่านะ คนที่โดนเราล้อเลียนบางคนไม่พอใจ ขึ้นโรงขึ้นศาลก็มี ตัวอย่างในบ้านเมืองเรามีให้เห็นมาเยอะแล้ว โอ๊ะ ปอแสบตาอะ สงสัยผงกระหรี่มันเข้าตา

ใช้คำหยาบให้คล่อง
ใช้ให้คล่องไม่ได้แปลว่าใช้บ่อย ใช้เรื่อยๆใช้เยอะๆ แต่คำหยาบในเกมใช้แล้วต้องประกอบไปด้วยว่าใช้เพื่ออะไรและใช้กับใคร ไม่ใช่ว่าใช้พร่ำเพื่อทั้งเกม ถ้าไม่มั่นใจ อย่าใช้

ยิงมุกตลกให้แม่น
ยิงแล้วต้องขำ ถ้าลองเอาไปเล่าให้เพื่อน10คนฟัง 1คนขำ 9คนไม่ขำ พิจารณามุกใหม่ด่วนๆ แต่ถ้า8ใน10ขำ โอเคผ่าน มุกแต่ละมุกที่ยิงออกไป

ให้เกรียติผู้เล่น
สำหรับผู้เล่นที่เป็นกลาง เราก็ต้องเขียนแบบให้เกรียติตัวละครของผู้เล่นหน่อย หรือการใช้คำพูดกับผู้เล่นก็ต้องใช้ให้เหมาะสม ผู้เล่นถือเป็น1ในผู้สร้าง ถ้าสร้างเองเล่นเองไม่ต้องเคร่งเรื่องมาก แต่เกมถือเป็นการสื่อสารเหมือนกัน แต่เกมแบบออฟไลน์เป็นการสื่อสารทางเดียว(One way communication ตัวอย่างเช่น การดูทีวี ฟังวิทยุ อ่านหนังสือเป็นต้น) ดังนั้นผู้เล่นเกมจึงเป็นผู้รับสาร จะใส่อะไรให้ระวังผู้รับสารด้วย

หยอกล้อผู้เล่นบ้าง
ข้อนี้อาจจะดูขัดกับข้อที่แล้ว แต่การหยอกล้อไม่ใช่การเหยียดหยามผู้เล่น แต่เป็นการใช้มุกตลกแกล้งให้ผู้เล่นขำ เหมือนการยิงมุกตลกมุกหนึ่ง แต่ผู้เล่นได้มีส่วนร่วมคืออาจจะโดนแกล้ง แต่ถ้ามุกไม่เด็ดจริงก็ไม่แนะนำให้ใช้

ติเพื่อก่อ 1 เสนอแนะ
ไปทำเกมด่าเค้าอะ บอกเค้าด้วยว่าที่ทำผิดมันคืออะไร แล้วที่ถูกต้องควรทำอะไร ส่วนเค้าจะเห็นด้วยไม่เห็นด้วยก็เรื่องของเขาแล้ว ขนาดเรายังคิดต่างเลย เขาก็มีสิทธิ์จะคิดต่างบ้างมันธรรมดา แล้วการติเพื่อก่อนี่ต้องเป็นการก่อที่ก่อได้จริงๆนะ ไม่ใช่ไปแนะนำให้เค้าผูกคอตาย แบบนั้นลองเป็นผู้นำตายนำสักคนก็แล้วกัน เผื่อเค้าจะตายตาม(ปอประชด!)

ติเพื่อก่อ 2 ด่าที่การกระทำ ไม่ใช่ด่าที่ความเป็นคน
คนเราจะด่าใครแบบต่อหน้าหรือลับหลังนี่เอาให้ดีชี้ที่การกระทำ ไม่ใช่ไปชี้ที่ชาติพันธุ์ เพศ การศึกษาก็ด้วย เรื่องพวกนี้เซ้นสิถีบ บางคนอาจจะไม่มีโอกาส แต่การกระทำอะไรล่ะที่ไม่ดี ใส่การกระทำไปแรงๆ จะว่าจะสอนใครก็ตาม เอาที่การกระทำ ทำให้ลดการกระทำ อย่าลดค่าความเป็นคนของใคร ถ้าเป็นไปได้ พยายามเปลี่ยนชื่อคนให้ไกลต่อความเป็นจริงมากที่สุด เปลี่ยนเล็กน้อยต้องอ่านเรื่องกฏหมายหนัก เปลี่ยนชื่อ และอาชีพให้มาก จะได้เน้นกฏหมายน้อยๆ ห่างไกลคุก!

ติเพื่อก่อ เพื่ออะไร?
ว่ากันตามจริงๆ ไอ้คนที่ด่ามันคงไม่มานั่งเล่นเกมเราหรอก เอาคนที่เล่นเกมเราเนี่ยละ เสนอให้เค้ารู้ ว่าทำแบบนั้นมันไม่ดีจะได้ไม่ไปทำตามมัน แค่นี้ก็พอ เป็นพระคุณแล้ว

สิ่งที่สำคัญของเกมแนวเสียดสี คือต้องมีสเน่ห์
เล่นแล้วรู้สึกรัก ไม่ใช่ยิ่งเล่นยิ่งมีคนด่าเหมือนผู้นำบางคนอยู่นานก็โดนไล่โดนด่า

สิ่งที่ต้องกลัวในการสร้างเกมแนวพาโรดี้ หรือเกมแนวล้อเลียนเสียดสี มี2อย่าง

อย่างที่ 1. กฏหมาย
อย่างที่ 2. กฏหมู่

กฏหมาย อ่านให้ละเอียด ตัวอย่างการหาอ่าน ค้นคว้า้พิ่มเติมในgoogle คีย์เวิร์ดว่า หมิ่น หมิ่นประมาท

และ
การแสดงความคิดเห็นดังต่อไปนี้ไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท
มาตรา 329 ผู้ใดแสดงความคิดเห็นหรือข้อความใดโดยสุจริต
(1) เพื่อความชอบธรรม ป้องกันตนหรือป้องกันส่วนได้เสียเกี่ยวกับตนตามคลองธรรม
(2) ในฐานะเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติการตามหน้าที่
(3) ติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ หรือ
(4) ในการแจ้งข่าวด้วยความเป็นธรรมเรื่องการดำเนินการอันเปิดเผยในศาลหรือในการประชุม
ผู้นั้นไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท

จะสร้างเกมแล้วรู้ตัวว่าปากร้ายมาก อย่าลืมเทคนิคติเพื่อก่อ เพราะทำให้ผู้เล่นได้สิ่งดีๆออกไปใช้ในชีวิตจริง และยังพูดได้เต็มปากเต็มคำด้วยว่า ฉันติชมด้วยความเป็นธรรม ซึ่งบุคคลหรือสิ่งใดอันเป็นวิสัยของประชาชนย่อมกระทำ โอเค๊??

ส่วนเรื่องการเมือง อย่าไปแรง เพราะกฏหมู่น่ากลัวกว่ากฏหมาย
ใครจะรู้ว่าสักวันคุณจะโดนอุ้มก็ได้ พวกเสื้อแรงๆบางคนมันเล่นแรงมากนะ ข่มขู้คุกคามชาวบ้านเค้าไปทั่ว ขนาดตำรวจยังไม่กล้าอะ บางทีมีคนตาย คนที่ทำคนตายยังไม่ติดคุกเลย เพราะอะไรอะหรอ?

เพราะที่นี่ประเทศไทยไง คริคริ!!

ตัวอย่างเกมที่มีการลล้อเลียน
http://www.youtube.com/watch?v=D681hWTz0rw
ตัวอย่างในคลิปเป็นเกมที่มีการวางขาย เล่นกับเครื่องps1ด้วย (เกม P2)
คือ ฮิตเล่อร์ อันนี้เล่นกันตรงๆ ไม่ดัดแปรงชื่อและหน้าตาเลย - -"

กระทู้ของกิลน้องปอจ้า เข้าไปเยี่ยมกันได้น้า
http://irpg.in.th/thread-1294.html

Parody หนัง เกม ก็สนุกนะ เอาที่เค้าฮิตๆกันตอนนี้ เช่น แฮรี่พ็อตเตอร์ ให้ตัวละครเราพุ่งเข้าชาญชลา 9 เศษ3/4 แต่ไม่ไป ชนกำแพงแทน อะไรเงี้ย ขโมย BGM จากเรื่องอื่นมาโปรยๆบ้างก้ได้ เช่นเวลาตัวละครพูดโรแมนติกปรับความเข้าใจกันกันก็เปิดเพลงไททานิค "ตื่อดือดื๊อ.... ดือดื่อดือดื้อ..." แล้วเรือก็ชนภูเขาน้ำแข็ง ไรงี้ เอาฉากที่มันเด่นๆ คนจำได้ จากหนัง เกม การ์ตูน มา ตัวอย่างหนัง parody เรื่องนึงเลยที่อยากให้ดูคือ Scary Movies มันยำได้เจ๋งมาก แล้วก็การ์ตูนเรื่อง Gintama อันนี้ก็เป็นตัวอย่างที่ดีมากๆ

เกม/การ์ตูน ที่เอา ตัวละคร/คำพูด จาก เกม/การ์ตูน หรือ เรื่องอื่นที่ดังๆ แค่เอามาใส่ก็ฮาก็มีเหมือนกัน
(แต่ถ้าดังไม่พอหรือเก่าเกินอาจแป๊กเหมือนกัน)

อย่างเกมยานยิง พาโรดี้(อุส) แค่เห็นตัวละครก็ฮาแล้ว

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆคับ

คุณก็ลองดูสาสนาที่คุณไม่ได้นับถือสิ ลองค้นประวัติไม่ดีของศาสนาอื่นๆดู เชื่อว่าโลกทั้งใบก็ยังไม่รักศาสดาทั้งหมดเลย ขนาดพระศาสดาเป็นผู้ยิ่งใหญ่ แล้วนับอะไรกับมนุษย์ตัวเล็กๆแบบเรา?

ถ้าจะไปลงที่เว็บสาธารณะ ขอให้ระวังที่จะพาดพิงถึงศาสนานะครับ
บทความถือว่าใช้ได้นะครับ อาจจะมีคำผิดอยู่บ้าง แต่ก็เป็นแนวทางได้

แอบพาดพิงศาสนา บางเว็บไซต์แค่โพส ( ไม่ว่าจะทางที่ดีหรือไม่ดี ) ก็โดนลบและแบนนะฮะ โปรดระวัง
( เดี๋ยวก็โดนเรียกพวกมารศาสนาห่*ไรนี่อีก -.- )

เรื่องศาสนาที่Quoit กันมา ตรงนี้ปอเขียนปลุกกำลังใจว่าเวลาเราเริ่มทำอะไรอย่าพึ่งไปคิดในแง่ลบ หรือกลัวในสิ่งที่จะทำมันไม่ดีครับ
แต่เกมแนวพาโรดี้ (ไม่ว่าจะทำออกมาแนวล้อเลียน หรือส่อเสียด ก็ตาม) ต้องมีคนบางกลุ่มไม่พอใจอยู่แล้ว
ซึ่งผู้สร้างจำเป็นต้องรับให้ได้่กับตรงนี้

ตรงที่Quoit มาเดิมทีมาจากคำสอนของอาจารย์วิชา จิตวิทยาการให้การปรึกษาและทำจิตบำบัด ของปอครับ
คำสอนต้นฉบับมีดังนี้
"เพื่อนครูตอนที่ไปทำบุญที่วัด มันยังพูดเลย อุ๊ยเจ้าแม่กวนอิมเท้าใหญ่ ไม่สวยเลย"
เป็นแง่คิดที่ว่าคนในโหลกไม่มีใครไม่ถูกนินทา ให้ดูเจ้าแม่กวนอิมเป็นตัวอย่าง เป็นรูปปั้นอยู่ดีๆยังโดนนินทาเลย แบบนี้เป็นต้น

เอาไว้ถ้าปอว่างๆปอจะเปลี่ยนคำพูดให้มันดูเป็นบทความที่ไม่ส่อเสียดนะครับ

เรื่องศาสนาที่Quoit กันมา ตรงนี้ปอเขียนปลุกกำลังใจว่าเวลาเราเริ่มทำอะไรอย่าพึ่งไปคิดในแง่ลบ หรือกลัวในสิ่งที่จะทำมันไม่ดีครับ
แต่เกมแนวพาโรดี้ (ไม่ว่าจะทำออกมาแนวล้อเลียน หรือส่อเสียด ก็ตาม) ต้องมีคนบางกลุ่มไม่พอใจอยู่แล้ว
ซึ่งผู้สร้างจำเป็นต้องรับให้ได้่กับตรงนี้

ตรงที่Quoit มาเดิมทีมาจากคำสอนของอาจารย์วิชา จิตวิทยาการให้การปรึกษาและทำจิตบำบัด ของปอครับ
คำสอนต้นฉบับมีดังนี้
"เพื่อนครูตอนที่ไปทำบุญที่วัด มันยังพูดเลย อุ๊ยเจ้าแม่กวนอิมเท้าใหญ่ ไม่สวยเลย"
เป็นแง่คิดที่ว่าคนในโหลกไม่มีใครไม่ถูกนินทา ให้ดูเจ้าแม่กวนอิมเป็นตัวอย่าง เป็นรูปปั้นอยู่ดีๆยังโดนนินทาเลย แบบนี้เป็นต้น

เอาไว้ถ้าปอว่างๆปอจะเปลี่ยนคำพูดให้มันดูเป็นบทความที่ไม่ส่อเสียดนะครับ

เจ้าแม่กวนอิมเท้าใหญ่ ถถถถว์

ต่างคนต่างความคิด จะให้คนทั้งโลกคิดแบบคุณปอคงไม่ได้นะคับ
อีกอย่างผมว่ายกตัวอย่างแบบนี้ไม่เหมาะสมนะคับ

บทที่2 มุกตลก

***เกร็ดเสริมสำหรับมุกตลก
อ่านบทความ มุกตลก หรือมุขตลกได้ที่นี่ http://www.royin.go.th/th/knowledge/detail.php?ID=906
คำนี้ใช้ผิดกันมาก ดังนั้นใครใช้ผิด ปอไม่ค่อยโพสท้วงหรือติงอะไร เพราะประเทศเราฝ่ายมาก = ฝ่ายถูก บางครั้งปอเองก็พิมพ์ผิดๆถูกๆ ไม่เป็นไร อย่าถึงขนาด มาหญ้าแพรก มาพฤษจิกาคม ก็พอ มันจะแอ๊บแบ๊วเกินไป
(อีกคำคือ เกม กับ เกมส์ เพื่อนๆสามารถหาวิธีพิมพ์คำนี้ได้จาก Google)

องค์ประกอบของมุกตลกที่ปอได้เกล็ดความรู้มาจาก วิชาสังคมสงเคราะห์ ซึ่งเป็นเรื่องที่อาจารย์เล่าให้ฟังอีกแล้ว
พื้นที่แต่ละพื้นที่จะมีจุดขำ หรืออารมณ์ขำต่อสถาณการณ์ต่างกัน อย่างเช่นประเทศไทย เรื่องตลกที่โจ๊กที่สุดมักจะติดทะลึ่งๆ

มีเรื่องเล่าที่ตลกที่สุดสำหรับคนไทย คือเรื่องโจรปล้นรถเมล์

เรื่องมีอยู่ว่า รถเมล์สายหนึ่ง มีโจรขึ้นมาบนรถเมล์ ใครที่เป็นผู้ชายมันทำร้ายและฉกทรัย์สินมาหมด ใครที่เป็นผู้หญิงมันจะข่มขืนและฉกทรัพย์สินมาทั้งหมด จนมาถึงคุณยาย ก็มีผู้หญิงคนนึงตะโกนขึ้นมาว่า "อย่าทำอะไรคุณยายเลย คุณยายเขาแก่แล้ว" คุณยายก็ร้องขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโหว่า "พอเลย นังนี่! . . . คุณโจรเค้าโตแล้ว เค้าคิดเองได้ <3"

ก็จบไปสำหรับโจ๊กที่ขำที่สุดในประเทศไทย(แต่มาอยู่ในมือปอ ปออาจจะเล่าไม่ค่อยขำนะครับ)

องค์ประกอบของเรื่องตลกนี่ จะมีอยู่3ส่วน ยิ่งมีองค์ประกอบที่ครบ3ส่วนยิ่งขำยิ่งฮายิ่งตลกง่ายขึ้น

องค์ประกอบของเรื่องตลก3ส่วน
ส่วนที่1. เป็นเรื่องที่ฟังแล้วไม่เครียด
อันนี้ปอไม่รู้ว่าใครคิด แต่มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น ขึ้นชื่อว่าเรื่องตลกมันก็ต้องฟังแล้วไม่รู้สึกหดหู่อยู่แล้ว

ส่วนที่2. เป็นเรื่องที่ฟังแล้วรู้สึกเหนือกว่า
คือในเรื่องตลกนั้น เราจะต้องไม่ไปเป็นเหยื่อในเรื่องตลก หรือโดยเย้ยหยันส่วนใดส่วนหนึ่งในเรื่องตลก เช่นในเรื่องตลกเหยียดสีผิว เหยียดชาติพันธุ์ เราอาจจะฟังแล้วไม่ขำ
(เรื่องเหยียดชาติพันธุ์ที่เบาที่สุดคือเรื่อง น้ากาลาโต้ (น้ำกำลังต้ม) เป็นการเอาสำเนียงของพม่า กะเหลี่ยงมาล้อ)

ส่วนที่3. เป็นเรื่องที่ไม่คิดคาด
เช่นเรื่องที่คุณนกย่างได้พูดในPost1ว่า
"เอาที่เค้าฮิตๆกันตอนนี้ เช่น แฮรี่พ็อตเตอร์ ให้ตัวละครเราพุ่งเข้าชาญชลา 9 เศษ3/4 แต่ไม่ไป ชนกำแพงแทน อะไรเงี้ย"
นี่ก็เป็นตัวอย่างของเรื่องที่ไม่คาดคิด

โดยส่วนตัวปอชอบใช้ส่วนที่3มากกว่า เพราะจะหลีกเลี่ยงความรุนแรงได้ดีกว่า คือเรื่องที่ตลกจะไปกระทบกระเทือนใจใครๆได้ยากขึ้น ทำให้มุกของเรามีความกว้างขวางมากขึ้น

ในบทที่2ที่ได้นำเสนอไปนี้ปอจะนำเสนอแค่งานวิจัยนี้เท่านั้น(รู้สึกจะเป็นงานวิจัยนะแต่หาแหล่งอ้างอิงมาเสริมให้ไม่ได้ อันนี้ขอโทษด้วย ไว้ถ้าหาได้สัญญาว่าจะไม่นิ่งเฉย) เลยเน้นแต่เรื่องตลกๆไป โดยยังไม่ได้พูดถึงเรื่องที่ควรไม่ควร(ขอบเขตของเกมพาโรดี้) ซึ่งถ้ามีโอกาสจะมาเขียนต่อให้เป็นบทที่3 บทที่4ต่อๆไปแน่นอน

ป.ล. เนื้อหาในกระทู้นี้ปอจะเขียนให้สามารถอ่านข้ามบทแล้วย้อนกลับมาอ่านบทเก่าๆได้เผื่อคนอยากรู้ไม่อยากรู้จะได้ข้ามไปข้ามมาอ่านในส่วนที่ตัวเองสนใจก่อนได้ โดยไม่มีผลกระทบต่อความเข้าใจนะครับ เพื่อนๆสามารถอ่านบทล่าสุดแล้วกลับมาอ่านบทที่2ได้อะไรแบบนี้เป็นต้น