เพื่อนๆเคยประสบปัญหาตัวละครในเกมเยอะเกินไหมครับ?

คือวันนี้ลองคิดเกม simulation แนวโรงเรียนเล่นๆกะว่าจะให้เล่นได้ตั้งแต่ ม.1 ถึง ม.6 เลย แต่ปัญหาคือ ตัวละครจะเยอะมาก

พอดีตั้งใจว่าจะให้npcทุกตัวในเกมมีชื่อและนิสัยเป็นของตัวเอง

ม. นึง สมมติมี 4 ห้อง ห้องละ 10 คน

มี 6 ม.

4x10x6 = 240 คน



แต่ช้าก่อน... ทุกครั้งที่ตัวเอกเลื่อนชั้นเรียน ก็จะมีนักเรียนรุ่นใหม่เข้ามาเพิ่มเสมอๆ

ตัวเอกขึ้นม.2 นักเรียนใหม่+40 คน
ตัวเอกขึ้นม.3 นักเรียนใหม่+40 คน
ตัวเอกขึ้นม.4 นักเรียนใหม่+40 คน
ตัวเอกขึ้นม.5 นักเรียนใหม่+40 คน
ตัวเอกขึ้นม.6 นักเรียนใหม่+40 คน



รวมเป็นนักเรียน 440 คน ด้วยกัน ซึ่งเยอะเกิน ผมเขียนไม่ไหวแน่ๆ ผมต้องการลดตัวละครในเกม

ทีนี้ ทางออกของปัญหาที่ผมคิดได้

1. ให้ตัวละครทุกตัวซ้ำชั้นไปเรื่อยๆ ไม่ต้องเลื่อนชั้น วิธีนี้จะทำให้ลดนักเรียนลงไปได้พอสมควร เหลือเพียง 240 คน และใช้ routine เดิมๆได้ ไม่ต้องย้ายห้องเรียนตัวเอก ข้อดีคือเขียนระบบง่าย แต่ข้อเสียคือไม่สมจริงเท่าไร

2. ไม่ต้องให้มีชั้นปี ไม่ต้องเลื่อนชั้น ให้โรงเรียนนี้มีแค่ระดับเดียว จะได้4x10 ก็จะมีนักเรียนเหลือเพียง 40 คนเท่านั้น โอ้วว น่าสนใจๆ ข้อดีคือ ลดตัวละครลงไปได้มาก เขียนระบบง่าย และใช้ routine เดิมๆได้ ไม่ต้องย้ายห้องเรียนตัวเอก แต่ข้อเสียคือ (สมมติว่าเป็นเกมจีบสาว) ไม่มีรุ่นน้อง รุ่นพี่ ให้จีบ จีบได้แต่รุ่นเดียวกัน และไม่สมจริงเอามากๆ

3. ให้มี ม. ละห้องก็พอ แต่ว่าเลื่อนชั้นตามปกติ จะได้ 10x6 ก็จะมีนักเรียนเหลือเพียง 60 คน หากรวมนักเรียนใหม่เมื่อตัวเอกเลื่อนชั้นแล้ว จะได้ 60+10+10+10+10+10 = 110 คน โอ้วว น่าสนใจๆๆ ข้อดีคือสมจริงกว่าข้อ 1. และข้อ 2. แต่ข้อเสียคือ (สมมติว่าเป็นเกมจีบสาว) ไม่มีเพื่อนต่างห้องให้จีบ มีแต่รุ่นน้องกับรุ่นพี่ และเพื่อนในห้องเดียวกัน และจะไม่มีเพื่อนข้างห้อง


เพื่อนๆคิดว่าทางออกทางไหนดีที่สุดครับ? /tired

4.ให้ตัวละครชุดเดิมเลื่อนชั้นร่วมไปกับตัวเอกเรียนห้องเดิมเพื่อนเหมือนเดิมแต่อาจมีนักเรียนใหม่แทรกเข้ามา2-3คนในแต่ละปี

ก็ พอ ม.6 จบไป ก็เอาตัว ม.6 มาเปลี่ยนซะใหม่ โดยในฐานข้อมูลเป็น ม.6 ก็จริง แต่เราใช้ระบบสุ่มชื่อ และก็เปลี่ยนสกินเอาก็ได้ครับ แล้วก็ให้มันมาวน ม.1 ใหม่เรื่อยๆ
คหสต. แบบ (3) เครสุดค่ะ

## แก้ไขเพิ่มเติม ไม่จำเป็นหนิครับว่าทุกชั้นจะต้องเท่ากัน มีเด็กลาออกเข้าใหม่สองสามคนระบบไม่พังหรอก(มั้ง)ครับ

3.ครับ ชั้นละห้องพอ

น่าสนใจแฮะ ประเด็นนี้
ท่านจะเอาไปทำเกมอะไรรึนี่!?

จากที่ให้มา ข้อ3.เหมาะสุดนะ

ถ้าอยากได้โรงเรียนธรรมดาก็ลำบากหน่อยอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นโรงเรียนเด็กเลว ที่หลายๆคนเข้าห้องเรียนเฉพาะตอนมีประชุมจะไปตีกับโรงเรียนอื่น อันนี้ก็ลดจำนวนนักเรียนไปได้ถึง 70% เลยทีเดียว

ไม่ก็บอกว่ามันเป็นโรงเรียนระดับโคตรอีลิต ปีนึงๆมีนักเรียนเกรดไม่ถึงโดนถีบออกไปครึ่งชั้น (แต่ในเกมไม่เกี่ยวกับค่าผลการเรียนนะ มันเป็นข้อแก้ตัวใช้ถีบตัวละครที่หนึ่งปีมานี้ยังไม่เจอหน้าออกไปเป็นระยะๆมากกว่า รุ่นพี่ที่ปีนึงไม่เคยเจอมา ปีหน้าก็เอาออกไปหน่อย เปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนหน้าตา เอากลับมาใช้เป็นตัวละครรุ่นน้อง)

ให้มีระดับเดียวกัน10และระดับอื่นๆแบบสุ่มโดยนำตัวละครที่จบออกไปแล้วมาลูปม1ใหม่ยกเว้นตัวละครหลักครับ

ข้อสามก็ดีที่สุด จากตัวเลือกแล้วครับ
แต่ยังไงผมคิดว่าชั้นละห้องคิดว่าน้อยเกินไปครับ ชั้นละสองห้องน่าจะเหมาะกว่า
ตัดปัญหาได้อีกถ้าทำเหลือแค่ม.3 ครับ

ปล.อย่าลืมให้อาจารย์มีบทนะครับ นักเรียนเหงาแย่ 'w'

ข้อสามก็ดีที่สุด จากตัวเลือกแล้วครับ
แต่ยังไงผมคิดว่าชั้นละห้องคิดว่าน้อยเกินไปครับ ชั้นละสองห้องน่าจะเหมาะกว่า
ตัดปัญหาได้อีกถ้าทำเหลือแค่ม.3 ครับ

ปล.อย่าลืมให้อาจารย์มีบทนะครับ นักเรียนเหงาแย่ 'w'

เออนะ ถ้าอยากได้บรรยากาศใสๆ puppy love ก็ตัดเหลือแค่โรงเรียนม.ต้น ถ้าอยากได้โตขึ้นหน่อยก็เป็นม.ปลาย

อาจารย์น่ะไม่เท่าไหร่หรอกครับ ภารโรงต่างหากที่สำคัญ

ใครเคยดูหนังชีวิตวัยเรียนของฝรั่งจะรู้ว่าภารโรงสำคัญมาก ชอบโผล่มาให้ความช่วยเหลือตอนตัวเอกกำลังต้องการได้พอดีทุกครั้ง มีเรื่องลึกลับหมายเลข7ของโรงเรียนที่ไม่มีใครจำได้? ภารโรงรู้ อยากได้กุญแจห้องปิดตาย? ภารโรงมีเก็บไว้ นักเรียนหายตัวไป? ถึงภารโรงจะไม่รู้ว่าหายไปไหน แต่ก็ได้ยินหรือเห็นอะไรแปลกๆซึ่งเป็นกุญแจให้ตัวเอกได้ ตัวเอกเจอปัญหาใหญ่ที่ปรึกษาอาจารย์ทั้โรงเรียนแล้วยังไม่พบทางสว่าง? ภารโรงชี้ทางให้ได้ สงสัยว่าผอ.คอรัปชันก้อนโต? ภารโรงรู้ว่าจะหาหลักฐานได้ที่ไหน อยากฝึกวิชาต่อสู้? ภารโรงเป็นนักมวยปล้ำเก่า ซอมบี้อาละวาด? ภารโรงมีของจำเป็นให้เอาตัวรอดได้ สรุปคือภารโรงเจ๋งกว่าอาจารย์แน่นอน โดยเฉพาะคนที่สะพายผ้าขนหนู

ผมว่านะพอขึ้นชั้นปีมีคนตายตายจบ5555 ปล.ไม่ต้องสนใจผมหรอก