To The Moon

luvikung 08-22-2012, 04:27 PM

When this world is no more
The moon is all we'll see
I'll ask you to fly away with me
Until the stars all fall down
They empty from the sky
But I don't mind

If you're with me
Then everything's alright

เมื่อโลกไม่เหลืออะไรอีกต่อไป
พระจันทร์ยังคงอยู่ให้พวกเราเห็น
ฉันจะถามเธอว่าอยากบินออกไปกับฉันไหม
จนกว่าดวงดาวทั้งหมดนั้นจะตกลงมา
จนมันหมดจากท้องฟ้า
แต่ฉันก็ไม่คิดอะไร

ถ้าเธออยู่กับฉัน
ทุกอย่างก็คงไม่เป็นอะไร

"To The Moon" เป็นเกมแนว "อินดี้-ผจญภัย-RPG" ที่พูดถึงแพทย์สองคนที่เข้าไปท่องอยู่ในความทรงจำของชายชราคนหนึ่งที่กำลังจะตายเพื่อเติมเต็มความหวังสุดท้ายของเขา

ประเภทของเกม : RPG, ผจญภัย, ไซไฟ, ทราจิกคอมเมดี้(เนื้อเรื่องแนวเศร้าตบตลก), จิตวิทยา
รองรับบน : Windows (PC)
ความยาวในการเล่น : ~4.5 ชั่วโมง
ขนาดไฟล์ของเกม : ~70mb

เกมนี้ได้รับคอมเมนต์จากเว็บไซท์ต่างๆ ว่าเป็นเกมที่ยอดเยี่ยมและแหวกแนวอีกเกม ที่ทำให้หลายๆคนต้องตะลึง ทั้งในเรื่องเนื้อหา คำพูด การจัดฉาก ระบบเกม และความซึ้งที่ฝังอยู่ในเรื่องด้วยครับ

Show ContentSpoiler:

และก็ได้รับรางวัลเพิ่มเติมจาก 5 สาขาชื่อดัง ซึ่งมีดังนี้ครับ

Show ContentSpoiler:

และนี่ก็เป็น Trailer ของเกมนี้ครับ ขอบอกไว้ก่อนเลยว่า Trailer ก็น่าสนใจมากๆพอแล้ว!

เอาล่ะครับ มาจึงจุด irpg Review กันแล้ว โดยผมจะให้คะแนนในมุมความคิดเห็นของผู้เล่นเป็นหลักก่อนนะครับ(นั่นก็คือผมและอีกคนหลายๆคนที่เคยคุยกัน) และตามด้วยความคิดเห็นแบบมืออาชีพเป็นเรื่องที่สอง และสุดท้ายก็คือสรุปนั่นเองครับ

1. เนื้อเรื่อง
คะแนนคือ 9.5/10
การดำเนินเรื่องภายในเกมถือว่ายอดเยี่ยมมากครับ ทั้งดูลื่นไหลและธรรมชาติ ไม่ทำให้ผู้เล่นติดขัดหรือเครียดประการใดเลย อีกทั้งยังทำให้ผู้เล่นเพลิดเพลินตามเนื้อเรื่องไปด้วย ไม่ว่าปัจจัยการเรียงเพลงให้เข้ากับบรรยากาศ ปัจจัยเล่นมุขตลกระหว่างเรื่องเพื่อไม่ให้ผู้เล่นยึดติดอารมณ์กับเกมจนเกินไป รวมไปถึงการผสานเรื่องในแต่ละฉากก็ยังเข้ากันได้ดีครับ

ในมุมมองของมืออาชีพ คิดว่าเนื้อเรื่องนั้นมีเนื้อหาที่แน่นอยู่พอสมควร ยังไม่พอ การผสานเรื่องโยงกลับไปมาก็ยังทำได้ดี ซึ่งผู้เขียนน่าจะใช้วิธีการเขียนเรื่องแบบ Timeline ก็เป็นได้ จึงทำให้เรื่องดูออกมาเป็นธรรมชาติ แต่ข้อเสียอยู่จุดหนึ่งคือความที่เป็นแฟนตาซีมากไป จึงสูญเสีย 0.5 คะแนนในจุดนี้ เพราะการนำแฟนตาซีมาใช้ควบคู่กับเรื่องแบบไซไฟ จะต้องอธิบายหตุผลของมุมมองตัวละครทุกตัวให้ออกมาครบถ้วน รวมถึงเนื้อเรื่องที่เป็นจุดเด่นก็ต้องอธิบายด้วย

2. เนื้อหา
คะแนนคือ 9/10
เนื้อหาโดยรวม ถือว่าแทบจะไม่มีจุดบอดใดๆเลย เนื้อหาอ่านแล้วเข้าใจง่ายถึงการกระทำที่โยงไปถึงตัวละคร และการที่ตัวละครได้ดำเนินเรื่องไปตามเนื้อหาและเรื่องได้อย่างเป็นธรรมชาติ

ในมุมมองของมืออาชีพ เนื้อหาที่ดีต้องกลบจุดบอดให้ได้ให้หมด ไม่ว่าจะเป็นจุดที่อยู่ตรงไหนก็ตาม ถ้าเกิดผู้อ่านมีข้อสงสัยขึ้น ผู้อ่านไม่สามารถไปถามคนเขียนเพื่อไขข้อข้องใจได้หรอก
และแน่นอนถึงถามไป ผู้เขียนก็อาจจะไม่ตอบกลับมา กลับกลายเป็นว่ายุ่งยาก ซึ่งในเกมนี้มีจุดบอดที่ยังกลบไม่หมดอยู่ จึงเสียไป 1 คะแนนเต็ม

ปล. อย่าเปิดถ้าไม่อยากโดนสปอย

Show ContentSpoiler:

3. ตัวละคร
คะแนนคือ 10/10
เกมนี้มีจุดเด่นคือใช้ตัวละครสองตัวในการดำเนินเรื่อง ซึ่งโดยในมุมเนื้อหาของนวนิยายจะต้องใช้ตัวละครใดตัวละครหนึ่งนำเนื้อเรื่องและเนื้อหาไปพร้อมๆกัน หรือใช้วิธีการเขียนในมุมมองบุคคลที่สาม(ผู้อ่าน) แต่เกมนี้กลับทำได้อย่างลงตัว

ในมุมมองมืออาชีพ ตัวละครสองตัวมีการโต้ตอบสัมพันธ์กันในเรื่องทำได้อย่างไม่ติดขัดและดูเป็นธรรมชาติมาก ราวกับตัวละครในเกมนี้มีอยู่จริง ถือว่าเป็นข้อดีสำหรับการวางตัวละครของเกมนี้ครับ

4. ระบบเกม
คะแนนคือ 7.5/10
ผมขอบอกไว้ก่อนเลยว่าเกมนี้มีบัคอยู่หลายจุด ซึ่งผมเล่นไปก็ไม่ค่อยประทับใจเท่าไหร่ แต่โดยรวมแล้ว ระบบเกมเข้ากับรูปแบบเกมได้ดี ทั้งการหาปริศนา ไขปริศนา การควบคุมได้หลายๆแบบ รวมไปถึงระบบเรียงเพลท แถมยังมีมินิเกมอยู่ 2-3 จุด ถือว่าไม่เลวสำหรับจุดนี้ครับ

ในมุมมองมืออาชีพ ขอหักคะแนน 2.5 คะแนนออกเนื่องจากบัคครับ ทั้งบัคในจุดของเม้าส์ (บางทีเอาไปชี้ที่ event ที่ไม่มีอะไร แต่กลับขึ้นว่ามีบางสิ่งให้ตัวละครไปกระทำ) และบัคตรงส่วน warp ไปยังแผนที่อื่น (ถ้ากดเหยียบพร้อมกับหันหน้า จะทำให้ตัวละครหันตามและค้าง อีกทั้งถ้าเป็น warp ที่ยังไปไม่ได้ แล้วทำแบบนี้ด้วย จะทำให้ตัวละครติดจนไปไหนไม่ได้)

5. กราฟฟิก
คะแนนคือ 9.5/10
กราฟฟิกเกมนี้เน้นสวยที่แมพกับคาแร็คเตอร์เซ็ทครับ ซึ่งทำออกมาได้ดี ขอชมเลยว่าเกมนี้ทำการเคลื่อนไหวด้วยคาแร็คเตอร์ธรรมชาติและน่าดูมากเลยทีเดียว

ในมุมมองมืออาชีพ อยากให้ 10 คะแนนในจุดนี้เหมือนกัน แต่ขอหักคะแนน 0.5 คะแนนตรงแมพท้ายๆ ที่ดูแล้วเหมือนทำลวกๆไปหน่อย ไม่สวยเหมือนแมพก่อนๆครับ (คนเล่นจะรู้และสังเกตเหมือนกัน)

6. เพลง
คะแนนคือ 10/10
เอาไปเลยครับสิบเต็มเหนี่ยว เพราะเพลงที่แต่งขึ้นมาสำหรับเกมนี้ก็เหมาะลงตัว และทำให้เพลิดเพลินไปกับเนื้อเรื่องได้ แถมยังเรียกทั้งความเศร้าและตลกขบขันได้อย่างไม่น่าเชื่อ อีกทั้งยังมีนักร้องมืออาชีพมาร้องเพลง "Everything is alright" ให้ด้วย เลยทำให้เพลงไพเราะและมีความเป็นเอกภาพสูงครับ

ในมุมมองมืออาชีพ เพลงทุกเพลงเป็นเพลงระดับที่แต่งได้ยาก และทำให้ไพเราะได้นุ่มนวล ยิ่งเอามาลงในเกมก็ยิ่งทำได้ดีและเพลินใจครับ

7. เสียงประกอบ
คะแนนคือ 8/10
จุดนี้ เสียงประกอบเกี่ยวกับตัวละครก็ใช้ซ้ำไปซ้ำมามากจนเกินไป และก็เสียงประกอบในแมพก็ไม่ค่อยมีครับ จึงขอหักไป 2 คะแนนในจุดนี้ (ถ้าใส่ใจจุดนี้ไปด้วย จะทำให้เกมนี้ยิ่งสมจริงมากขึ้นด้วย เสียดายไปหน่อย)

ในมุมมองของมืออาชีพ ก็ตามนั้นแหละครับ... ควรที่จะมีเสียงประกอบให้ดูสมจริงมากยิ่งขึ้น จะทำให้เกมไม่น่าเบื่อมากจนเกินไปครับ และก็ควรใส่เสียงประกอบลงในแมพต่างๆเพื่อเรียกความสมจริงด้วยครับ

8. จุดเด่นของเกม
คะแนนคือ 9/10
จุดเด่นของเกมนี้คือเนื้อเรื่องกับเพลงครับ ซึ่งไม่มีสิ่งในเลยที่จะมากลบจุดนี้ได้ ถ้าคนที่จะมาลองเล่นเกมนี้ แนะนำให้อ่านเนื้อเรื่องไปด้วยพร้อมกับฟังเพลงครับ จะทำให้เพลิดเพลินมากครับ (บางฉากก็ทำร้องไห้ได้เลยทีเดียว) เสียดายอย่างเดียวคือระบบเกมที่ไม่ค่อยดึงดูดใจเท่าไหร่แต่ก็ไม่น่าเบื่อจนเกินไปครับ เลยขอลบไป 1 คะแนน

ในมุมมองของมืออาชีพ ระบบไม่ควรจำเจมากไป การที่เดินมาทางไซไฟแล้ว ระบบในการเล่นควรที่จะมีหลากหลายมากกว่านี้เพื่อให้ดูเป็นไซไฟมากยิ่งขึ้นครับ จะเป็นการเสริมจุดเด่นให้เกมนี้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น

โดยรวมทั้งหมด เกมนี้อยู่ในเรทคะแนน 9/10 ครับ คือว่าอยู่ในระดับเกรด A เลยทีเดียว

สำหรับผู้ที่สนใจเกมนี้ ทางผู้สร้างได้ขายอยู่ในราคา ฿375 หรือ $11.95 ถือว่าอยู่ในราคากลางๆครับ สามารถสั่งซื้อทางเว็บไซท์หลักได้เลยที่ http://freebirdgames.com/to_the_moon หรือทางเว็บขายตรงครับที่ https://www.plimus.com/jsp/buynow.jsp?co...Id=3072606

สำหรับการพรีวิวเกม To The Moon ครั้งนี้ก็ขอหมดเพียงเท่านี้ครับ ขอบคุณมากครับที่สละเวลาอ่าน