ณ โรงเรียนทำอาหารแชมเปอิยองเย่ เอมเพอเรีย นักเรียนทุกคนยืนเรียงกันอยู่ที่โต๊ะยาวสำหรับทำอาหาร "ครูกิ๊ก" อาจารย์เชฟสาว อวบๆ ผมทองๆ ยืนอยู่หน้าชั้นเรียน
ครูกิ๊ก : นักเรียนทุกคนคะ วันนี้เรามีวิทยากรมาสอนทำอาหารอิตาลีค่ะ ขอให้ทุกคนตั้งใจฟังนะคะ
ชาตรียอดกุ๊กเดินเข้ามาในห้องเรียน
ชาตรี : สวัสดีครับนักเรียนทุกคน ผมชื่อชาตรี เจ้าของภัตตาคาร Chatrigazzo Italiano Bistro วันนี้ผมจะมาสอนทำลาซานญ่านะครับ ก่อนอื่นทุกคนหยิบชีสขึ้นมาขูดเลย
ทุกคนขูดชีสอย่างขะมักเขม้น ยกเว้นนักเรียนหญิงคนนึง เธอไม่ยอมขูด
ชาตรี : เธอชื่ออะไร
นักเรียนหญิง : ครูมาถามชื่อชั้นทำไม มีหน้าที่สอนก็สอนๆไปสิ น่ารำคาญอ่ะ
ชาตรี : หนอย
เพื่อนข้างๆ : เธอชื่อ mintrunner เป็นเด็กมีปัญหามากๆ ทำใจค่ะ
mintrunner : กรี๊ดด ยัยบ้า มีสิทธิ์อะไรไปบอกชื่อชั้น
ชาตรี : mintrunner! ทำไมเธอถึงไม่ขูดชีส!?
mintrunner : ก็ชั้นซื้อชีสขูดสำเร็จรูปมา จะขูดทำไมให้เมื่อย โตเป็นควายแล้วยังคิดไม่เป็นอีก
ชาตรี : เธอนี่มันห้าวจริงๆ ชั้นจะบอกอะไรให้ เผื่อว่าฝากะลาเล็กๆของเธอจะแง้มขึ้นมาบ้าง! การขูดชีสด้วยตัวเองน่ะ มันเป็นการรักษาคุณสมบัติและรสชาติดั้งเดิมของชีสไว้ให้มากที่สุด! เธอคงจะเคยแต่กินชีสสำเร็จรูปตามเซเว่นแล้วคิดว่ามันอร่อยสินะ... กินแต่อาหารโง่ๆ ไม่น่าล่ะถึงได้เป็นแบบนี้!!
mintrunner : กรี๊ดดด วิทยากรปากเสียแบบนี้ ไปเก็บขยะขายไป! โรงเรียนนี้ไม่ต้อนรับ!!
ชาตรี : อย่าพูดเลย พูดแล้วเข้าตัวเปล่าๆ เก็บไว้ด่าตัวเองเหอะ!!
"หมับ"
ชาตรีจับชีสยัดใส่มือ mintrunner และยัดที่ขูดชีสใส่มืออีกข้าง บังคับให้ขูดชีส
ชาตรี : ขูดชีสเดี๋ยวนี้!!!
mintrunner : ไม่โว้ย!!
"ปัง"
mintrunner ขว้างที่ขูดชีสใส่หน้าชาตรีทันที
ชาตรี : หนอย!!
"เพล้ง!"
ชาตรีฟาดขวดซอสมะเขือเทศใส่ mintrunner คืน ขวดซอสแตกกระจาย
"เพล้ง!"
mintrunner ฟาดขวดพริกไทยใส่จนแตก
"ผัวะ!!"
ชาตรีเตะ mintrunner กระเด็นข้ามโต๊ะทำอาหารไป
ชาตรี : ถ้าเธออยากใช้ชีสสำเร็จรูป ก็ตามใจ!!
ชาตรีกลับไปสอนหน้าห้องต่อ ทุกคนทำลาซานญ่าจนเสร็จ ถึงเวลาชิม mintrunner เอาลาซานญ่ามาวางกระแทกที่โต๊ะชาตรี
ชาตรี : รสชาติต้องปรับปรุง!! ชีสไม่มีความหอมแม้แต่นิดเดียว!!
mintrunner : กรี๊ด!!! มาด่ากันอย่างงี้ได้ไง แทนที่จะขอบคุณที่ทำลาซานญ่าอร่อยๆมาให้กิน ชั้นมีบุญคุณกับเธอนะ!!
ชาตรี : อยากเป็นหนี้บุญคุณคนมาก ก็เอาไปให้หมาไป!!
mintrunner : กรี๊ดดดด!!! แกไงหมา!! ปากหมา เดี๋ยวเตะอัดปากเลย!! ทำไมเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้!! ไสหัวไปจากโรงเรียนนี้เลย!!
ชาตรี : คนที่เอาแต่ใจตัวเองน่ะใครกันแน่!? ต้องให้ชมอย่างเดียวใช่ไหม!? ติอะไรไม่ได้เลยใช่ไหม? ถ้ารุ้ว่าต้องได้สอนเด็กอย่างเธอ ชั้นจะไม่มาเฉียดโรงเรียนนี้เลย!!
mintrunner : งั้นก็ไปเลย ชิ่วๆๆๆ
ชาตรี : คนที่ควรจะไปน่ะคือเธอ!! คนอื่นเขาพร้อมที่จะรับความรู้ แต่เธอมันเป็นน้ำเต็มแก้ว ไม่ใช่สิ... ขี้เต็มแก้วมากกว่า!! จะเอาแต่ใจตัวเอง ต้องได้ดั่งใจทุกอย่างเลยใช่ไหม!?
mintrunner : งั้นมาดวลการทำอาหารเลยดีกว่า!! เย็นนี้ที่ดาดฟ้าโรงเรียน ชั้นท้าเลย!! เธอต้องแพ้แน่ๆๆ
ชาตรี : ชั้นจะรับคำท้าแล้วกันนะ เผื่อจะได้สำเหนียกตัวเองบ้าง!!
==============================================
ใกล้พลบค่ำวันนั้นเอง ณ ดาดฟ้าโรงเรียนแชมเปอิยองเย่ เอมเพอเรีย ทุกคนต่างก็พร้อมหน้าพร้อมตากัน รอคอยการดวลทำอาหาร
โฆษก : ยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าสู่การดวลทำอาหารเฉพาะกิจ สำหรับโจทย์ในวันนี้ เราได้สุ่มมา นั่นคือ!! ซุปครับ!! เอาล่ะ เริ่มได้!!
"ปี๊ดดด"
เสียงนกหวีดดังขึ้น
mintrunner : หึหึ สู้ชั้นไมได้หรอกย่ะ ชั้นเตรียมสูตรทำอาหารเทพมาแล้ว ไปขอยืมมาจากคุณทวดที่เป็นนางในวัง
ชาตรี : คุณทวดนี่แว้ดๆ แบบนี้เหมือนกันรึเปล่า?
mintrunner : กรี๊ดดด หุบปากเลย หุบปากๆๆๆ
ชาตรี : หึ ก็ไม่อยากเสวนาด้วยมากหรอกนะ
ชาตรีเอาตะกร้าใส่เห็ดมา และบีบมะนาวพรมๆใส่
ชาตรี : เห็ดที่จะใช้ทำซุปน่ะ ต้องพรมด้วยน้ำมะนาวก่อน จะทำให้สารเคมีของเห็ดเปลี่ยนสภาพ เป็นรสกลมกล่อม ไม่ขม
ชาตรีตั้งไฟหม้อและเอาเนยโยนลงไป
ชาตรี : เนยน่ะต้องเป็นเเนยที่แช่แข็งด้วยอุณหภูมิที่ต่ำกว่าอุณหภูมิห้องเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ความหอมของนมวัวไม่หายไป
ชาตรีละลายเนยในหม้อ และใส่เห็ด ใส่ใบเบย์ลีฟ ใส่ครีม ใส่ซุปไก่ และเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ
ทางด้าน mintrunner เธอก็อ่านหนังสือคุณทวดอยู่นาน
mintrunner : ซุปข้าวโพด... อืม... ต้องใส่ข้าวโพด ใส่ครีม
เธอหยิบขวดครีมมา
mintrunner : เอ ใส่ครีม 1 ถ้วย... 1 ถ้วยนี่ขนาดไหนหว่า? งั้นเอาเป็น 1 ถ้วยบะหมี่จอมพลังละกัน
เธอเอาถ้วยที่ใหญ่มากๆสำหรับใส่บะหมี่ชามยักษ์ ตวงครีม และเทลงในหม้อ
mintrunner : ทำไมมันไม่เดือดเลยอ่ะ
ชาตรี : จะบอกให้ก็ได้นะ ครีมเธอน่ะใส่เยอะไปแล้ว ให้ตายก็ไม่เดือดหรอก เพราะครีมมีจุดเดือดสูงมาก ถึงจะรอจนเดือด มันก็ไม่อร่อยอยู่ดี
mintrunner : กรี๊ดดด หุบปากไปเลย! ไม่ต้องมาสอน! ยังไม่ได้กินเลย ก็มาว่าไม่อร่อยละ จะทำซุปให้กินแท้ๆ ขอบคุณล่วงหน้าก็ยังดี
ชาตรี : หึ ให้กรรมการกินเถอะ ชั้นไม่กินของเธอหรอก แต่กรรมการจะกล้ากินรึเปล่ายังไม่รู้เลย
mintrunner : กรี๊ดดดด วี้ดว้ายๆๆ ไอ้แว่น ไอ้บ้า!! ไปตายซะไปๆๆ
ชาตรี : นิสัยแว้ดๆโวยวายแบบนี้เนี่ย ซื้อมากี่บาทเหรอ? จะขอซื้อต่อ...เอาไปทิ้ง!!
mintrunner : กรี๊ดดด!! หุบปากไปเลยย่ะ! ถ้าของชั้นอร่อยล่ะก้อ เธอจะต้องมากราบๆๆ ตีนชั้นแน่ๆ
ครีมในหม้อ mintrunner ยังคงค้างเติ่งอยู่ในหม้อ ไม่เดือดสักที ทางชาตรีก็เคี่ยวจนจะเสร็จแล้ว
ชาตรี : ไปเข้าห้องน้ำแป๊บ
ระหว่างที่ชาตรีเข้าห้องน้ำนั้นเอง mintrunner ได้สลับเอาหม้อของชาตรีมาไว้ฝั่งตัวเอง และเอาหม้อตัวเองกลับไปไว้ฝั่งชาตรี
mintrunner : หึหึหึ ไอ้แว่น หนอยแนะ ด่าไว้เยอะ ต้องเจอมั่ง
ชาตรีกลับมาพอดี
ชาตรี : เห้ย!? นี่มันหม้อเธอนี่!? เธอสลับหม้อชั้น!! เอามาคืนเลยนะ!!
mintrunner : สลับอะไร? ทำอาหารห่วยเองแล้วมาโทษคนอื่น อยากได้ของคนอื่นไปทั่ว เอาแต่ใจตัวเองจริงๆ
ชาตรี : หนอย... แล้วจะได้เห็นกัน
ชาตรีไม่มีทางเลือก จึงต้องทำอาหารจากหม้อ mintrunnerต่อ ส่วน mintrunnerนั่งเคี่ยวซุปที่ขโมยมาจากชาตรีอย่างสบายใจ
"ปี๊ด!!"
และแล้ว เวลาก็หมดลง
mintrunner : เสร็จแล้วค่ะ! ซุปเห็ดซุปเปอร์เมก้าซุป!!
mintrunner เอาซุปเห็ดมาวางต่อหน้ากรรมการ กรรมการตักซุปชิม
กรรมการ : อืม อร่อยจริงๆ นี่มันซุปอิตาลีแท้ๆ เอาไปเลย 9 คะแนน!!
mintrunner : หึหึหึ
ชาตรี : ......
ถึงคราวชาตรีบ้าง ชาตรีวางซุปข้าวโพดลงต่อหน้ากรรมการ
กรรมการ : อืม... ครีมเยอะจริงๆ ต้องเลี่ยนมากๆแน่ๆ
กรรมการตักซุปเข้าปาก
กรรมการ : .................!?!!!!
"วิ้ง"
แสงออกมาจากตาและปากกรรมการ
กรรมการ : ซุปข้าวโพดนี่มัน...!!! แม้จะมีครีมเยอะ แต่ก็ได้ผสมผลไม้ลงไปในซุป ให้ตัดกับรสชาติเลี่ยน กลายเป็นความอร่อยที่ครบรสชาติและสมบูรณ์แบบ!!!
กรรมการชูป้าย 10 คะแนน
"ตูมมมมม!!!"
เวทีระเบิดเป็นจุล
==============================================
mintrunner และ ชาตรีคลานออกมาจากซากปรักหักพัง และเผชิญหน้ากัน
ชาตรี : หึ.... เธอขโมยซุปชั้นไป แต่ปรุงต่อไม่เป็น ก็เท่ากับขยะนั่นแหละ เสียดายซุปจริงๆ
mintrunner : กรี๊ดดดด!!!! กรี๊ดๆๆๆๆ ไอ้บ้า ไอ้แว่น แกต้องตาย!!
ชาตรี : .......!?!
mintrunner เรียกหุ่นรบลงมาจากฟ้า เธอกระโดดเข้าไปบังคับหุ่นทันที หุ่นนั้นลอยอยู่เหนือโรงเรียนและเล็งปืนเลเซอร์มาที่ชาตรี
mintrunner : หึหึ นี่คือหุ่น CromOni-01 แกต้องตายแน่ๆๆ
ชาตรี : หึ คิดว่ามีหุ่นคนเดียวหรือไง!?
ชาตรีวิทยุเรียกหุ่นรบมา และกระโดดเข้าไปบังคับ
ชาตรี : นี่คือหุ่น Pasta-X ไม่เคยแพ้หุ่นตัวไหนมาก่อน!!
CromOni-01 ยิงปืนเลเซอร์ใส่ แต่Pasta-X สร้างเกราะพลังงานขึ้นมาป้องกัน
ชาตรี : หุ่นนี้น่ะ สร้างขึ้นมาเพื่อป้องกันการรุกรานจากข้าศึกที่จะมารบกวนการทำอาหาร ดังนั้น จึงมีเทคโนโลยีป้องกันขั้นสูง
Pasta-X ยิงมิสไซล์โต้กลับ
"ตูม!!"
CromOni-01 ชะงัก
ชาตรี : แต่โจมตีก็ใช่ว่าจะกระจอก!!
mintrunner : กรี๊ด!!!! แกมันก็แค่พ่อครัวกระจอก เอานี่ไปกิน!!
CromOni-01 ชาร์จเลเซอร์เข้มข้น และยิงไป Pasta-X สร้างเกราะพลังงานอีก แต่ก็เหมือนจะต้านไม่ไหว เลเซอร์สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง เกราะพลังงานอ่อนลงเรื่อยๆ
mintrunner : ฮ่าๆๆๆ ยอมแพ้ซะ แล้วไสหัวไป!! ชั้นจะชนะแกและเป็นเชฟมือหนึ่งของโลกนี้เอง!!
ชาตรี : ถ้าเชฟมือหนึ่งคือเธอล่ะก็ โลกนี้คงได้กินแต่อาหารหมา!!
"ชู่ว........"
เลเซอร์ของCromOni-01 หยุดไปอย่างไร้สาเหตุ
mintrunner : ฮะ? เลเซอร์เป็นอะไรอะ!? กรี๊ดดดๆๆๆ
ชาตรี : มิสไซล์ที่ยิงไปเมื่อกี้น่ะ มีหุ่นนาโนไมท์ ป่านนี้หุ่นไปทำลายศูนย์จ่ายพลังงานละ เลเซอร์ใช้ไม่ได้ละ ต่อไปก็คงเดินไม่ได้
mintrunner : กรี๊ดดด!!
ชาตรี : คนเราต้องไม่ทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้ว ถ้าจะทำตัวเป็นน้ำเต็มแก้วน่ะ สู้แก่หรือตายไปเลยดีกว่า อย่ามีชีวิตอยู่เลย!!
Pasta-X พุ่งเข้ามาต่อย CromOni-01
ชาตรี : หมัดสปาเกตตี้!!!
"ตูมมม!!"
CromOni-01 โดนหมัดไปอย่างแรง กระเด็นขึ้นฟ้าและระเบิดไป
วันรุ่งขึ้น
ครูกิ๊ก : ขอบคุณมากนะคะที่มาเป็นวิทยากร เด็กๆได้ความรู้เยอะเลย
ชาตรี : ไม่เป็นไรครับ ไว้คราวหน้าจะมาใหม่นะครับ
แอ๊ด นักเรียนคนหนึ่งเปิดประตูเข้ามาในห้องเรียน mintrunner นั่นเอง
ชาตรี : ...!?!
จบ